
12
Feb
จีน
5 พิกัดเที่ยวกับทัวร์เฉิงตู รวมไว้ให้ครบตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ทัวร์เฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน หนึ่งในสามนครที่มีประชากรมากที่สุดในภาคตะวันตกของประเทศจีน นับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกหนึ่งแห่งสำหรับสายรักธรรมชาติโดยเฉพาะ เป็นสถานที่ที่มีความสวยงามเหนือจินตนาการจนต้องมาเห็นกับตาสักครั้งในชีวิต เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องของอุทยานธรรมชาติหลายแห่ง อีกทั้งยังมีภูเขา และธารน้ำแข็งให้เที่ยวชมอีกด้วย! บอกเลยว่าใครที่ไม่มีแผนจะเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษ ลองอ่านบทความนี้แล้วคุณจะมีสถานที่ที่อยากไปเช็คอินอย่างแน่นอน!
ในวันนี้ (ชื่อแบรนด์) ได้รวบรวม 5 พิกัดสุด Exclusive ให้ทุกท่านได้เลือกเที่ยวกันแบบจุใจ เพราะเราคัดสรรสถานที่วิวหลักล้านจากธรรมชาติมาไว้ให้คุณแล้ว เตรียมตัวเก็บกระเป๋า และออกเดินทางไปพร้อมกันกับเรา ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย!
1. อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว (Jiuzhaigou)
อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A สำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบทะเลสาบ และสีสันที่ฉูดฉาด ซึ่งถูกจัดอันดับว่าสวยที่สุดของประเทศจีน! เพราะคำว่าจิ่วจ้ายโกวนั้นแปลว่า “ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน” โดยหุบเขานี้เป็นส่วนหนึ่งของ Min Mountain ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางของอุทยาน ด้วยสภาพผืนป่าที่มีทะเลสาบสีครามกว่า 144 แห่ง และน้ำตกขนาดใหญ่ จึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกนั่นเอง
สถานที่ไฮไลท์
1. ทะเลสาบ 5 สี (Five Flower Lake)
ผิวน้ำที่สะท้อนสีสันอย่างสวยงาม ผสมผสานระหว่างซากต้นไม้ใต้น้ำทะเลที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน โอบล้อมไปด้วยป่าไม้ ภูเขา มีทิวทัศน์เหนือจินตนาการ ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสียิ่งไม่ควรพลาดที่จะมาเช็คอินที่นี่ กับความงดงามที่เปรียบเสมือนอัญมณีของธรรมชาติ!
2. ทะเลสาบกระจก (Mirror Lake)
จุดน้ำตกที่โดดเด่นที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกว เป็นน้ำตกที่มีความกว้าง 160 เมตร ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีป่าไม้สีเขียวสดล้อมรอบ พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศไปกับเสียงน้ำที่ไหลกระทบก้อนหินเป็นจังหวะอย่างสม่ำเสมอ เปรียบเสมือนบทเพลงแห่งธรรมชาติที่ช่วยเติมเต็มความสงบ และผ่อนคลายไปตาม ๆ กัน
4. ทะเลสาบไผ่ลูกศร (Arrow Bamboo Lake / Waterfall)
จุดเช็คอินตรงนี้จะมีทะเลสาบ และน้ำตกเป็นแนวยาวอย่างสวยงาม โดยรอบมีต้นไผ่เป็นจำนวนมาก ผสานเข้ากับน้ำทะเลสีฟ้าครามได้อย่างลงตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินชมธรรมชาติ และเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของทะเลสาบไผ่ลูกศรได้อย่างเต็มที่ หรือจะหามุมถ่ายรูปเก๋ ๆ เก็บไว้โชว์เพื่อน ๆ ว่าเรามาเยือนที่นี่ก็ยังได้!
5. หมู่บ้านทิเบต (Tibetan Villages)
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการมาสัมผัสวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ควบคู่ไปกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต สถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่ดำรงอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ หรือ จะเป็นทิวทัศน์สุดอลังการ ที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างไร้ที่ติ ต้องบอกเลยว่าคุ้มค่าสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนจะมาเช็คอินที่นี่ เพราะวิวหลักล้านนั้นไม่เกินจริง
เกร็ดความรู้
ฤดูกาล
อุทยานแห่งชาติจิ่วจ้ายโกวสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูกาล แต่ฤดูที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือ
“ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
(เดือนกันยายน - เดือนตุลาคม)”
เพราะเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวมากที่สุด
บรรยากาศจะเต็มไปด้วยใบไม้หลากสีนับหมื่นต้น ตัดสลับกับท้องฟ้า
และแสงสะท้อนจากผิวน้ำมรกต จนเกิดเป็นภาพที่งดงามเหนือคำบรรยาย
เดินทาง

2. ต๋ากู่ปิงชวน (Dagu Glacier National Park)
นับเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ธารน้ำแข็งแห่งแรกของจีน” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 4A ที่มีวิวทิวทัศน์อันงดงามของหิมะสีขาวโพลน ธารน้ำแข็งอันหนาวเหน็บ และภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่าน เหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบในการท้าลมหนาว และหลงไหลหิมะนุ่ม ๆ ซึ่งสามารถเข้าชมได้ด้วยกระเช้าลอยฟ้า พร้อมถ่ายภาพเก็บบรรยากาศเอาไว้ว่าเคยมาเช็คอินธารน้ำแข็งกลาเซียร์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก!
สถานที่ไฮไลท์
1. ธารน้ำแข็งกลาเซียร์ระดับโลก
จุดเด่นของต๋ากู่ปิงชวน คือ ธารน้ำแข็งกลาเซียร์ระดับโลกที่อยู่ในระดับความสูงประมาณ 4,860 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้เป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในโลก บอกเลยว่านักท่องเที่ยวมากมายต่างก็อยากมาชมธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่มีความขาวบริสุทธิ์ท่ามกลางทิวทัศน์ของภูเขา และท้องฟ้าอันกว้างใหญ่อย่างแน่นอน
2.กระเช้าลอยฟ้าที่สูงที่สุดในโลก
ในการเดินทางขึ้นไปยังจุดชมวิวธารน้ำแข็ง นักท่องเที่ยวทุกท่านสามารถนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปได้ ซึ่งเป็นกระเช้าแห่งหนึ่งที่สูงที่สุดในโลกเลยทีเดียว ค่อย ๆ เคลื่อนไปยังจุดชมวิวอย่างช้า ๆ เพื่อเสพบรรยากาศมุมสูง และชมวิวไปพร้อมกันแบบจุก ๆ !
สำหรับจุดชมวิวตรงนี้ จะอยู่ด้านบนของยอดเขาซึ่งมีความสูง 4,860 เมตร เมื่อลงจากกระเช้าลอยฟ้าแล้วเดินตามสะพานไม้อีกเล็กน้อยก็จะพบกับลานวงกลมไว้ถ่ายรูปแล้ว ซึ่งสามารถมองเห็นธารน้ำแข็งกลาเซียร์ ภูเขาหิมะ หรือจะเดินชมทะเลสาบใกล้ ๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าที่นี่มีอากาศค่อนข้างเบาบาง ควรระมัดระวังในการเที่ยวชมด้วยนะ
เกร็ดความรู้
ฤดูกาล
1. ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม - พฤษภาคม)
ฤดูกาลนี้ ที่ต๋ากู่ปิงชวนจะมีอากาศที่อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 5 - 10 องศา ซึ่งถือว่ายังหนาวอยู่ เหมาะแก่การมาเที่ยวเพื่อสัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสัน และความมีชีวิตชีวาของดอกไม้นานาชนิดที่เริ่มผลิบานตามฤดูกาลนั่นเอง
2. ฤดูร้อน (มิถุนายน - สิงหาคม)
สำหรับใครที่ไม่ชอบอากาศหนาว ทาง (ชื่อแบรนด์) แนะนำให้มาในช่วงฤดูร้อน ซึ่งจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 15 - 20 องศา เป็นช่วงที่อบอุ่นที่สุดของปี แต่ก็ยังมีบรรยากาศที่เย็นสบาย มีใบไม้เขียวชอุ่ม มีสีสันสดชื่น และดูมีชีวิตชีวาที่มากขึ้น
3. ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน - พฤศจิกายน)
ฤดูกาลนี้ถือว่าเป็นช่วงที่สวยงามที่สุดของปี เพราะว่าภูเขาทั้งลูกจะถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้หลากสีสัน และอากาศเริ่มเย็นลงโดยมีอุณหภูมิอยู่ที่ 4 - 13 องศา ซึ่งในช่วงต้นฤดูอาจจะมีฝนโปรยปรายเป็นระยะ ในขณะที่หิมะจะเริ่มตกตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไปนั่นเอง
4. ฤดูหนาว (ธันวาคม - กุมภาพันธ์)
เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดลงอยู่ที่ -13 ถึง -5 องศาเลยทีเดียว พร้อมกับลมแรงที่จะช่วยเพิ่มความหนาวมากขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งทุกสิ่งโดยรอบจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลนราวกับดินแดนแห่งน้ำแข็งเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่ชื่นชอบความหนาวเย็น และอยากสัมผัสหิมะหนานุ่มแบบจุใจ ฤดูนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
เดินทาง
(ชื่อแบรนด์) แนะนำให้ขึ้นรถบัสที่สถานี Chadianzi Bus Station ในเมืองเฉิงตู เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Heishui ซึ่งจะมีรถออกวันละ 3 รอบ
- 07:10 น.
- 08:30 น.
- 11:00 น.
โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 - 7 ชั่วโมง จากนั้นให้ต่อแท็กซีไปยัง Dagu Glacier ซึ่งอยู่ห่างจากจุดลงรถประมาณ 9 กิโลเมตร หลังจากนั้นเมื่อมาถึงจะมีบริการรถบัสพาไปยังจุดขึ้นกระเช้าลอยฟ้าโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็ถึงจุดชมวิวบนยอดเขาแล้ว

3. อุทยานแห่งชาติหวงหลง (Huanglong)
อุทยานหวงหลง อีกหนึ่งมรดกโลกแห่งเมืองจีนที่ตั้งอยู่บนเทือกเขา Minshan Mountains ซึ่งมีระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งน้ำพุร้อน น้ำตก รวมไปถึงแอ่งน้ำหินปูนที่สวยงาม อุทยานแห่งนี้มีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ถือได้ว่าเป็นจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีไลฟ์สไตล์แบบชิล ๆ และชื่นชอบแอ่งน้ำตามธรรมชาติ
สถานที่ไฮไลท์
ภายในอุทยานหวงหลงนั้นจะมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติสวย ๆ หลายแห่งเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น หุบเขาหวงหลง ช่องแคบตันหยุน ยอดเขาเซวี่ยเป๋า และหุบเขามูนี่โกว แต่ที่โดดเด่นที่สุดคือ หุบเขาหวงหลงนั่นเอง
ซึ่งเอกลักษณ์ที่ทำให้อุทยานแห่งชาติหวงหลงมีความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร คือทะเลสาบสีหินอ่อนที่มีแอ่งน้ำเล็ก ๆ กว่า 3,400 บ่อ ซึ่งเกิดจากการสะสมของแร่ธาตุในน้ำที่ไหลผ่านหินปูนจนเกิดเป็นสีสันอันสวยงาม มีความสะท้อนแสงราวกับอัญมณีไม่มีผิด ต้องบอกว่านักท่องเที่ยวทุกท่านที่มาเยือนสถานที่แห่งนี้ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยงามตระกาลตา คุ้มค่า และไม่ผิดหวังกันอย่างแน่นอน
เกร็ดความรู้
ฤดูกาล
สำหรับอุนทยานแห่งชาติหวงหลง
นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้เกือบทั้งปี ยกเว้นระหว่างเดือนพฤศจิกายน -
มีนาคม เนื่องจากอาจเกิดอันตรายจากหิมะได้
และที่สำคัญยังถือว่าเป็นช่วงฟื้นฟูธรรมชาติได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
ช่วงที่
(ชื่อแบรนด์) แนะนำให้มาเที่ยวมากที่สุดจะเป็นช่วงระหว่างเดือนกันยายน -
ตุลาคม เพราะอุทยานจะสวยที่สุดในช่วงนี้
บอกเลยว่าทุกท่านจะได้เห็นถึงความพิเศษของใบไม้เปลี่ยนสีที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นสีส้ม สีแดง สีเขียวสลับกันไปอย่างสวยงาม
รับรองว่าหากได้มาเช็คอินที่นี่แล้วล่ะก็
ทุกท่านจะได้รับความฟินกับบรรยากาศธรรมชาติจนต้องอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้งอย่างแน่นอน!
เดินทาง
สามารถเดินทางจากสนามบินเฉิงตูไปยังสนามบินจิ่วไจ่หวงหลง
(Jiuzhai Huanglong Airport) และนั่งรถต่ออีกประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง
หรือใครที่สนใจเที่ยวแบบแพ็กเกจทัวร์ราคาคุ้มเอาใจสายรักธรรมชาติ
ต้องนี่เลย! (เฉิงตู - หวงหลง - จิ่วจ้ายโกว 5 วัน 4 คืน ???????? ราคาเริ่มต้น
20,xxx บาท )

4.ปี้เผิงโกว (Bipenggou)
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติที่เหล่านักท่องโลกไม่ควรพลาด คือ อุทยานแห่งชาติปี้เผิงโกว ต้องบอกเลยว่าความสวยงามนั้นไม่แพ้อุทยานไหน ๆ อย่างแน่นอน เพราะวิวหลักล้านสุดอลังการแบบเต็มสิบไม่มีหัก ได้ถูกยกมาตั้งไว้ที่นี่แล้ว! คนที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบน้ำตก ป่าไม้ และทะเลสาบ อย่าลืมตามมาเช็คอิน และถ่ายรูปชิค ๆ โพสต์ลงโซเชียลกันด้วยนะ
สถานที่ไฮไลท์
1. ทะเลสาบหลงหวัง (Longwang Lake)
จุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยไม่แพ้จุดไหน ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะสีของน้ำทะเลจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วยนะ! บางช่วงก็เป็นสีฟ้าใส บางช่วงก็เป็นสีเขียวมรกต บอกเลยว่าหาดูที่ไหนไม่ได้แล้ว อีกทั้งยังมีสะพานไม้ให้เราได้เดินชมบรรยากาศแบบใกล้ ๆ อีกด้วย สามารถหามุมถ่ายรูปชิล ๆ กันได้เลย
2. น้ำตกไป่หลง (Bailong Waterfall)
น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ความสูง 3,671 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานปี้เผิงโกวเลยทีเดียว มีขนาดกว้าง 10 เมตร และน้ำตกลงจากหน้าผาสู่ผืนน้ำบริเวณด้านล่างด้วยความสูงกว่า 100 เมตร พอได้มองไกล ๆ ก็จะเห็นถึงความสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ
3. ทะเลสาบปันหยาง (Panyang Lake)
ตรงสถานที่นี้เรียกได้ว่าเป็นทะเลสาบที่ขึ้นชื่อเรื่องความใสของน้ำ และมีปลาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก บริเวณโดยรอบจะถูกห้อมล้อมไปด้วยภูเขา ป่าไม้ ดอกไม้นานาชนิด และใบไม้เปลี่ยนสีตามฤดูกาลนั้น ๆ อีกด้วย
4. เยี่ยนจื่อเหยียน (Yanziyan)
จุดนี้เป็นจุดที่จะมองเห็นวิวภูเขาหิมะได้แบบใกล้มาก ๆ และยังได้เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพมุมกว้างของเหล่าทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตกอีกด้วย ต้องบอกเลยว่าใครเห็นแล้วต้องหลงรักวิวธรรมชาติของที่นี่อย่างแน่นอน แม้แต่ (ชื่อแบรนด์) เองก็อยากที่จะไปเช็คอินอีกสัก 100 ครั้ง!
เกร็ดความรู้
เดินทาง
สามารถนั่งรถบัสจากสถานี Xinnanmen Bus Station ในเมืองเฉิงตู ไปยังอุทยานปี้เผิงโกว ช่วงเวลา 07:00 น. ได้เลย

5. ภูเขาสี่ดรุณี (Siguniangshan)
ปิดท้ายด้วยวิวหลักล้านสวย ๆ เหมือนสวิสเซอร์แลนด์แห่งประเทศจีน มีความงดงามตระกาลตาเหนือจินตนาการ! เหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ลุย ๆ ชื่นชอบภูเขา และเดินป่าสุด Exclusive กับภูเขาสี่ดรุณี ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำฉางผิงโกว และไห่จื่อโกว เป็นเทือกเขาที่เรียงติดกันทั้งหมด 4 ยอดเขา ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ด้วยความสวยงาม และความยิ่งใหญ่ที่มองเห็นหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ทำให้นักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนต่างก็อยากมาเช็คอินที่นี่สักครั้งในชีวิต!
อีกทั้งที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่หิมะที่ปกคลุมยอดเขาเท่านั้น แต่ยังมีผืนป่าที่เต็มไปด้วยสีเขียวขจี ผสมผสานกับธารน้ำใสเย็น ๆ ที่ไหลผ่านอย่างสวยงาม จนถูกขนานนามว่าเป็น “เทือกเขาแอลป์ในแผ่นดินจีน” เลยทีเดียว นับเป็นจุดหมายปลายทางของคนชอบเที่ยวธรรมชาติที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง!
เส้นทางท่องเที่ยวไฮไลท์ เมื่อมาถึงหุบเขาสี่ดรุณี
1. ซวงเฉียวโกว (Shuangqiao Valley)
เส้นทางหุบเขานี้จะเป็นเส้นทางที่ลึกที่สุด และสวยที่สุด ซึ่งตลอดการเดินทางจะมองเห็นหุบเขา ธารน้ำ ทุ่งหญ้า ทะเลสาบ และยอดเขารูปร่างแปลกตาอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นเส้นทางที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน เพราะเดินทางสะดวกสบาย และมีรถบัสของอุทยานคอยให้บริการด้วยเช่นเดียวกัน
2. ฉางผิงโกว (Changping Valley)
ส่วนของเส้นทางนี้จะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง เพราะตลอดการเดินทางจะมองเห็นความอุดมสมบูรณ์ที่เต็มไปด้วยป่าสน ภูเขา น้ำตก ลำธาร หมู่บ้านชาวทิเบต และฝูงจามารี อีกทั้งยังเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าสมัยโบราณอีกด้วย โดยจะมีรถบัสของอุทยานเข้าไปรับส่งนักท่องเที่ยวได้เพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปเอง ซึ่งใช้เวลาประมาณหนึ่งวันในการไป-กลับเส้นทางเดิน บอกเลยเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้อย่างท้าทาย เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบเที่ยวแบบลุย ๆ นั่นเอง
3. ไห่จื่อโกว (Haizi Valley)
เส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางเดินป่าระยะไกล และมีทางค่อนข้างลาดชัน สามารถขึ้นไปบนยอดเขาได้แต่ต้องมีไกด์ท้องถิ่นคอยนำทางเท่านั้น และตลอดเส้นทางอาจจะเจอเหล่าสัตว์อนุรักษ์อย่างเช่น ลิงขนทอง แรคคูน เป็นต้น อีกทั้งยังมีพืชนานาชนิดที่หาดูได้ยากอีกด้วย สำหรับเส้นทางนี้จะไม่มีรถให้บริการ ต้องเดินเท้าอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาหนึ่งวันเต็มในการเดินทางไป-กลับทางเดิม หรืออาจจะต้องพักค้างคืนเพื่อเก็บแรงไว้ในวันถัดไปนั่นเอง เรียกได้ว่าสายเดินป่าต้องถูกใจกับสิ่งนี้อย่างแน่นอน!
เกร็ดความรู้
สามารถเดินทางจากเมืองเฉิงตูไปยังสนามบินเหวินชวน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางต่อโดยรถบัสไปยังอุทยานแห่งชาติภูเขาสี่ดรุณี ใช้เวลาอีกประมาณ 2 ชั่วโมง หรือใครที่สนใจเที่ยวแบบแพ็กเกจทัวร์ราคาถูก เอาใจสายลุย ต้องนี่เลย! (เฉิงตู - ภูเขาสี่ดรุณี - หุบเขาซวงเฉียวโกว - รูปปั้นแพนด้าเซลฟี่ 4 วัน 3 คืน ราคาเริ่มต้น 15,xxx บาท ???? www.tour.com)
จบกันไปแล้วกับบทความเที่ยวเฉิงตูที่จะตอบโจทย์เรื่องธรรมชาติของทุกไลฟ์สไตล์ แต่สิ่งสำคัญอย่าลืมเตรียมความพร้อมของร่างกายเอาไว้ให้ดี เพราะเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว รับรองว่าจะได้เที่ยวอย่างสนุกไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน ใครที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยวเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศของธรรมชาติเหล่านี้ อย่าลืมแวะมาเช็คอินตามสถานที่ที่ (ชื่อแบรนด์) แนะนำ และบอกเล่าประสบการณ์ให้เราฟังกันด้วยนะ
สำหรับใครที่อยากจะไปเที่ยวเฉิงตูที่ประเทศจีน แต่ยังไม่มีแผนการเดินทาง หรือไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี (ชื่อแบรนด์) แนะนำแพ็กเกจทัวร์ราคาดี เที่ยวเฉิงตูแบบฟิน ๆ ที่นี่ (เฉิงตู - พิชิตอุทยานชื่อดัง - สี่ดรุณี - จิ่วจ้ายโกว - ปี้เผิงโกว - ต๋ากู่ปิงชวน 6 วัน 5 คืน ราคาเริ่มต้น ????????28,xxx บาท ) ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ และสนุกไปกับทัวร์อย่างเต็มที่!
